วันเสาร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

Napier's bones

กระดูกนาเปียร์

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
Bones of Napier (board and rods).png
กระดูกนาเปียร์ (อังกฤษNapier's bones) เป็นเครื่องมือช่วยคำนวณ ประดิษฐ์โดย จอห์น นาเปียร์ (John Napier) นักคณิตศาสตร์ชาวสก็อตแลนด์ใช้ช่วยคูณและหารตัวเลข ลักษณะเป็นท่อนไม้สลักตัวเลข

การคูณ[แก้ไขต้นฉบับ]

สมมติว่าเราต้องการหาผลคูณของ 46785399 กับ 7 ให้นำแท่งไม้เรียงตาม 46785399 ไปวางไว้ในตาราง ตามในรูป และอ่านผลลัพธ์จากแถวที่ 7 โดยอ่านจากขวามาซ้าย ผลคูณจะได้จากการบวกเลขตามแนวทแยง (ถ้าผลบวกเกิน 9 ให้ทดไปบวกหลักต่อไป)
Napier-example-1.png
ดังนั้น เราจะได้หลักหน่วย (3), หลักสิบ (6+3=9), หลักร้อย (6+1=7), และอื่นๆ สังเกตว่าในหลักแสนจะได้ 5+9=14 ดังนั้น หลักนี้เท่ากับ 4 และทด 1 ไปหลักต่อไป (เหมือนกับ 4+8=12 ในหลักสิบล้าน)
ตัวอย่างถัดไปเราจะคูณ 46785399 กับ 96431 ศึกษาขั้นตอนจากภาพ
Napier example 2.png

การหาร[แก้ไขต้นฉบับ]

ต้องการหาร 46785399 ด้วย 96431 เริ่มด้วยให้เราหาผลคูณทุกตัวของ 96431 ดังภาพ ผลคูณของ 96431 เป็นเลข 8 หลัก การหาร 46785399 เริ่มจากทางซ้ายก่อน คือ 467853 ,8 ตัว ส่วนเลข 99 ให้ละเอาไว้ก่อน แล้วหาค่าผลคูณที่ใกล้เคียง 467853 คือ 385724 (ซึ่งเป็นผลคูณของ 96431 กับ 4) จะได้ 4 เป็นผลหารตัวแรก จากนั่นลบกัน จะได้ 82129 (467853- 385724=82129) และดึง 99 ที่ละไว้ลงมาด้วยเป็น 8212999 ทำซ้ำอีกครั้ง ค่าที่ใกล้เคียง 8212999 คือ 771448 จะได้ เลข 5
Napier-example-3.png
ทำซ้ำแบบนี้เรื่อย ๆ จะได้คำตอบ 485 เศษ 16364 ส่วน 96431หรือ  ถ้าเราต้องการจะหารต่อไปอีกจะต้องติดอยู่ในรูปทศนิยม โดยหลักการแล้วเหมือนกับที่เราได้เรียนกันมาในสมัยประถม คือ ให้เราใส่จุดที่ 485. และเติมศูนย์ที่ 16364 จะได้เป็น 163640 แล้วก็ทำเหมือนเดิมอีก ดังตัวอย่างรูปด้านล่างนี้
Napier-example-4.png
เราจะได้ค่าในแถวที่ 1 คือ 96431 ซึ่งน้อยกว่า 163640 ลบกับได้ 67209 ได้คำตอบเป็น 485.1 ในรอบถัดไปก็จะได้แถวที่ 6 มีค่าเป็น 578586 ซึ่งน้อยกว่า 672090 ได้คำตอบเป็น 485.16 เช่นนี้ไปเรื่อย ๆ

การหารากที่สอง[แก้ไขต้นฉบับ]

จากภาพเราได้เพิ่มช่องตารางอีกหนึ่งช่อง คือ &radic ซึ่งจะถูกแบ่งเป็น 3 สดมภ์ : สดมภ์แรกเป็นเลขกำลังสอง คือ 1, 4, 9, ... 64, 81; สดมภ์ที่สองเป็นเลขคู่ 2 ถึง 18; สดมภ์สุดท้าย 1 ถึง 9
Napier's rods with the square root bone
 123456789
10/10/20/30/40/50/60/70/80/90/1     2   1
20/20/40/60/81/01/21/41/61/80/4     4   2
30/30/60/91/21/51/82/12/42/70/9     6   3
40/40/81/21/62/02/42/83/23/61/6     8   4
50/51/01/52/02/53/03/54/04/52/5   10   5
60/61/21/82/43/03/64/24/85/43/6   12   6
70/71/42/12/83/54/24/95/66/34/9   14   7
80/81/62/43/24/04/85/66/47/26/4   16   8
90/91/82/73/64/55/46/37/28/18/1   18   9
ต้องการหารากที่สองของ 46785399 ขั้นแรก ให้เราแบ่งตัวเลขออกมาเป็นชุด ชุดละ 2 ตัว จากทางขวาไปซ้าย
46 78 53 99
Note: ถ้าเป็น 85399 จะแบ่งได้เป็น 8 53 99
เริ่มจากทางซ้ายสุดก่อน 46 ให้หาเลขกำลังสองที่มากที่สุดแต่น้อยกว่า 46 ซึ่งก็คือ 36 ในแถวที่ 6 จะเป็นคำตอบตัวแรก ลบกันจะได้ 10 แล้วให้เราดึงเลขชุดที่สอง 78 ลงมาเป็น 1078 ดังที่ได้แสดงไว้ด้านล่าง :
 12
10/10/20/1     2   1
20/20/40/4     4   2
30/30/60/9     6   3
40/40/81/6     8   4
50/51/02/5   10   5
60/61/23/6   12   6
70/71/44/9   14   7
80/81/66/4   16   8
90/91/88/1   18   9
         _____________
        √46 78 53 99    =    6
         36
         --
         10 78
ทำซ้ำเหมือนเดิม คือ เราต้องหาค่าของตัวเลขที่ยกกำลังสองแล้วมีค่าใกล้เคียง 1078 แต่ต้องไม่เกิน 1078 ซึ่งถ้าเราดูจากกระดูกนาเปียร์แล้วมีค่าไม่ถึง 1078 จะทำอย่างไร ขั้นที่สอง จากคำตอบตัวแรกที่เราได้คือ 6(จากแถวที่ 6)ใน column ที่ 2 ของตารางช่อง root เป็นเลข 12 ให้เรา set Napier's bones ท่อนที่ 1 และ 2 ดังตารางด้านบน
ต่อไปให้เราสร้างช่องตารางเพิ่มอีกหนึ่งช่อง value เป็นช่องแสดงค่า ตัวอย่าง อ่านค่าในแถวที่ 6 จะได้
0/6 1/2 3/6 → 756
ต่อไป เราต้องหาค่าของตัวเลขที่ยกกำลังสองแล้วมีค่าใกล้เคียง 1078 แต่ต้องไม่เกิน 1078 ซึ่งถ้าเราดูในช่อง value จะได้ 1024 ในแถวที่ 8 ดังตารางด้านล่าง และทำตามขั้นตอนเดิม
 12(value)
10/10/20/1     2   1121
20/20/40/4     4   2244
30/30/60/9     6   3369
40/40/81/6     8   4496
50/51/02/5   10   5625
60/61/23/6   12   6756
70/71/44/9   14   7889
80/81/66/4   16   81024
90/91/88/1   18   91161
         _____________
        √46 78 53 99    =    68
         36
         --
         10 78
         10 24
         -----
            54
เราจะได้ 8 เป็นคำตอบตัวถัดมา เราลบ 1024 กับ 1078 ได้ 54 จากนั้นเราอ่านค่าใน column ที่ 2 ของแถวที่ 8 ในช่องของ root มีค่าเป็น 16 เราจะต้องเรียงตัวเลขในกระดานใหม่(ไม่ใช่ ท่อนที่ 1 กับ 6)เป็น 136 ซึ่งมาจากเดิมในกระดานเรามี 1 กับ 2 อยู่ก่อนแล้ว เลข 16 ที่เราได้ ต้องทำการเพิ่มโดย เลข 1 ในหลักสิบของเลข 16 ไปบวก 12 เป็น 12+1 = 13 เพราะฉะนั้นเราได้เป็นเลข 136 ให้เราเรียงให้กระดานเป็นเลข 136
12 + 1 = 13 → append 6 → 136
Note: ถ้าใน column ที่ 2 ของช่อง root เป็นเลขตัวเดียว ให้เราใช้เลขตัวนั้นต่อไปเลย
เราจะได้ลักษณะดังตารางด้านล่าง
 136
10/10/30/60/1     2   1
20/20/61/20/4     4   2
30/30/91/80/9     6   3
40/41/22/41/6     8   4
50/51/53/02/5   10   5
60/61/83/63/6   12   6
70/72/14/24/9   14   7
80/82/44/86/4   16   8
90/92/75/48/1   18   9
         _____________
        √46 78 53 99    =    68
         36
         --
         10 78
         10 24
         -----
            54 53
ทำซ้ำอีกครั้ง โดยหาเลขผลรวมที่มีค่าใกล้เคียงกับ 5453 ซึ่งก็คือ 4089 ในแถวที่ 3
 136 
10/10/30/60/1     2   11361
20/20/61/20/4     4   22724
30/30/91/80/9     6   34089
40/41/22/41/6     8   45456
50/51/53/02/5   10   56825
60/61/83/63/6   12   68196
70/72/14/24/9   14   79569
80/82/44/86/4   16   810944
90/92/75/48/1   18   912321
         _____________
        √46 78 53 99    =    683
         36
         --
         10 78
         10 24
         -----
            54 53
            40 89
            -----
            13 64

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

พื้นที่รูปเรขาคณิต

  รูปสามเหลี่ยมด้านเท่า   คือ รูปสามเหลี่ยม ชนิดหนึ่งที่ด้านทั้งสามมี ความยาว เท่ากัน ใน เรขาคณิตแบบยุคลิด   รูปสามเหลี่ยมด้านเท่าจัดเป็น รู...